วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เรื่องหมา..หมา


พยัคฆ์หอน … นอนเกาเรื้อน


เคยมีสักครั้งไหมที่เราจะแอบมองหมาแล้วนึกอิจฉามัน ที่วันๆ มันไม่ได้ทำอะไร ไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดหัวเหมือนอย่างเราๆ หิวก็หาอาหารกิน พอปวดอึก็สูดดมฟิด ฟิด หาสุขาจนพอใจแล้วก็ปล่อยให้มันออกมา ปวดตรงไหนก็อึมันตรงนั้นแหละ ไม่ได้เกรงสายตาใครรอบข้างเลย เพราะทุกพื้นที่ข้าครองหมดแล้วโว้ย มันคงจะคิดอย่างนั้น ..
แล้วพอลองมองดูดีๆหมามันก็มีระดับเหมือนกันกับคน ๆ อย่างเราซะด้วยสิ พวกแรกจะเป็นพวกหมาไฮโซ (High Social ) ไม่ต้องบอกก็รู้เจ้าของมันก็ต้องไฮโซด้วย แต่งนู่น ประดับนี่ ให้หมามันรกรุงรังซะเสียหมา จนถ้าหมามันพูดได้มันก็คงจะบอกว่า “ อย่าทำตู..ตูละเบื่อ ” อะไรทำนองนี้ ก็น่าสงสารหมาไฮโซมันนะ ถูกประดับตกแต่งด้วยเพชร ทอง เห็นแล้วก็นึกอิจฉาหมาพวกนี้มันจัง และแน่นอนว่าหมาพวกนี้มันมักจะได้รับแต่สิ่งดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่หลับที่นอน กระทั่งห้องส่วนตัว บางตัวมันก็ถูกเลี้ยงอย่างกับเทวดา อะไรจะขนาดนั้น เจ็บนิดเจ็บหน่อยก็พาไปหาหมอเสียเงินแต่ละครั้งก็นับว่าแพงโข หลายๆคนยังไม่ได้สวัสดิการดีแบบหมาพรรค์นี้เลย
ประเภทต่อมาคือหมามีเจ้าของแต่เป็นเจ้าของชาวบ้านอย่างเราๆนี่แหละ มีกินวันไหนก็ได้กิน ไม่มีก็นั่งอดดูเจ้านายกินกันอย่างเอร็ดอร่อย สร้อยคอที่ได้ใส่ก็ไอ้เหรียญที่เจ้านายได้รับจากการฉีดยาแก้บ้าให้นั่นแหละนั่นคือจี้ที่ดีที่สุด ส่วนสร้อยอย่าหวังว่าจะได้ใส่สร้อยทอง ของมีค่า แค่ใส่เชือกธรรมดาก็โก้ หรู สำหรับพวกหมามันแล้ว มิหนำซ้ำมันยังใส่ไม่เป็นกันอีก พอใส่ให้มันก็ใช้ฟันกัดออก ตัวไหนดุหน่อยสร้อยที่ใส่ก็จะเป็นพวกโซ่คล้องคอให้อยู่กับที่ แต่มันจะดีหน่อยก็ตรงที่มันมีเจ้าของ มีที่ซุกหัวนอนหลบแดด หลบฝน เท่านี้ชีวิตของพวกมันก็มีความสุขแล้ว
และประเภทสุดท้ายหมาไร้สังกัด แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามันเป็นหมาประเภทไหน หมาพวกนี้ไม่มีเจ้าของเร่ร่อนไปทั่วไร้ซึ่งที่ซุกหัวนอน แน่นอนอาหารการกินก็อดๆอยากๆ อยู่กันไปวันๆจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่ หิวก็หาคุ้ยตามถังอาหารใบใหญ่ที่มีเศษอาหารเหลือเดนจากคน โยนเข้าไปเพื่อทำลาย มันก็เลยได้ต่อชีวิตไปก็เพราะตรงนี้แหละ ถ้าโชคร้ายหน่อยเจอคู่อริเก่าเก่งกว่ามาแย่งอาหารไปได้ก็ต้องอด อีกทั้งยังเจ็บตัวอีก ก็จะให้ข้าทำยังไงได้ก็ข้าไม่มีคนดูแลเหมือนไอ้หมาพวกนั้นนี่...มิหนำซ้ำโชคร้ายยังมาทับถมให้หนักเข้าไปอีกเหมือนมะเร็งร้าย เมื่อหมาพวกนั้นเป็นโรคเรื้อน ขนหลุดร่วง ความคันทำให้มันต้องเกาจนผิวหนังเริ่มเหวอะหวะให้พวกแมลงวันได้พากันเดินเล่น และอึใส่ได้อย่างสบายใจ ที่มันพอทำได้ก็คือวิ่งไปมาไม่อยู่กับที่เพื่อจะหลบแมลงวันพวกนั้น เห็นแล้วก็รู้สึกเวทนา มีเรื่องจริงเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับชายผู้มีจิตใจโหดเหี้ยม แต่หมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งได้สอนบทเรียนของชีวิตจนทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไปเรื่องมันมีอยู่ว่า นายชิตแกเป็นคนใจดำชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แต่ที่หนักก็คงเป็นเนื้อหมา (แกกินแหลก) แต่แม่แกบอกมันบาปนะลูกแกก็ไม่สนครั้งนั้นมีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง มันมักวิ่งไปหาของกินแถวบ้านแกบ่อยๆ เพราะบ้านแกติดตลาด แกกินหมาอยู่บ่อยๆ แต่กรณีหมาขี้เรื้อนแกบอก “ กูกินไม่ลงว่ะ ” แกทำอย่างเดียวคือไล่ฆ่า แต่มันรอดได้ทุกครั้ง มันไปหาของกินบางทีก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง คราวนั้นเนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป... พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนกำลังวิ่งหลุนๆ ไป แกเดือดทันทีรีบวิ่งตามไป คราวนี้แกวิ่งทันเพราะหมาขี้เรื้อนวิ่งช้ามาก แกทุบไปทีเดียวหมานั่นก็ล้มลงชักทันที (แกบอกว่าหากตีตรงจุดแค่ไม้บรรทัดก็ตาย) แกทิ้งมันไว้ตรงนั้น...ไม่อยากจับแต่จะทำกินตรงนั้น จึงกลับบ้านไปเตรียมของ (แค้นจัดอยากกินหมาขี้เรื้อน) สักพักพอแกกลับมาไม่เห็นหมาตัวนั้นแกก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก ” ทำไมมันไม่ตายวะ ” พักหนึ่งแกก็ได้ยินเสียงหมาเห่า แกรีบตามไปทันที พอไปถึงภาพที่แกเห็นคือหมาขี้เรื้อนตัวนั้นกำลังจะตาย...มันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัว วัยกำลังหย่านมบางตัวยังกินนมอยู่ บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก ที่มันยังไม่ยอมตายก็เพราะต้องกลับไปให้นมลูก แม้น้ำนมแห้งกรังก็ยังเอาอาหารไปให้ลูก มันเรียกลูกๆ เพื่อให้นม ให้อาหารเป็นครั้งสุดท้าย แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุดมันมองหน้าแกอย่างขอร้อง ขอให้มันได้ให้นมลูกๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย นั่นคือน้ำตาของหมาขี้เรื้อน มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย นายชิตแกถึงกับทำไม้หล่นลงกับพื้นเดินเข้าไปดูแม่หมานั่น ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อนแต่แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูก แกไม่พูดอะไรทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ สายตาอ่อนโยนลง ลูกหมาตัวหนึ่งวิ่งไปหาแกกระดิกหางให้แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมพูดว่า “ ขอโทษ ” พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็ตาย แกก็ช่วยฝังแม่หมาตัวนั้นและแกก็ยังรับเลี้ยงลูกหมาทั้ง 5 ตัวนั้นไว้อีกต่างหาก ตั้งแต่นั้นมาแกก็กลายเป็นคนใจดี ไม่ไล่ยิงนก ยิงหมา ยิงแมวอีก แกยังบอกอีกว่า “ มันอาจจะมีลูกที่ยังรออยู่ก็ใด้ ” พอฝังแม่หมาเสร็จแกก็เอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำ และพูดกับแม่ว่า “ แม่สอนผมยังไงนะ สอนอีกหนได้ไหมครับ..ผมรักแม่ ” แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก ใครจะเชื่อว่าแม่หมาขี้เรื้อนที่ตายไป 1 ตัว กลับทำให้คนใจดำ อย่างแกเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
เทวดาคงจะไม่อยากได้อะไรที่หมาขี้เรื้อนไปติดสินบนหรอก แถมยังเหม็นกลิ่นหมาเน่าจนไม่อยากจะเข้าใกล้ จะเอายาไปรักษาก็กลัวจะถูกแว้งกัด กลัวจะติดเชื้อโรค นานๆทีจะโชคดีเจอเทวดาใจดีและเมตตาสุดๆ จึงจะรักษาจับใส่ยา อาบน้ำ หรือให้อาหารเพื่อให้มีชีวิตรอดที่ยืนนานฉะนั้นแล้วการจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัวควรจะคิดให้ดีเสียก่อนเพราะสัตว์มันก็คงไม่อยากเป็นภาระของใคร ถ้ามันสามารถหาของที่มันต้องการเองได้ มันก็คงจะหาด้วยตัวมันเองไปแล้วไม่ต้องมัวมาวุ่นวาย รอคนเลี้ยง ก็คนเลี้ยงนี่แหละที่เป็นภาระให้สัตว์เลี้ยงทำให้มันต้องรอว่าเมื่อไหร่เจ้านายจะมาสนองความต้องการให้มันสักที !!!


by : คนรักหมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น